Generation ที่ 9 (พ.ศ. 2550 - พ.ศ. 2560) ของ มิตซูบิชิ แลนเซอร์

มิตซูบิชิ แลนเซอร์ โฉมที่ 9

โฉมที่ 9 นี้ ทาง บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำแลนเซอร์รุ่นที่ 9 นี้เข้ามาขายตั้งแต่ พ.ศ. 2552 มีการเปลี่ยนแปลงชื่อให้แตกต่างจากรุ่นที่แล้ว คือ มีการเพิ่มเติมในส่วนของตัวอักษร EX (Exceed) ต่อจากคำว่า Lancer เนื่อจากต้องการแบ่งแยกตลาดให้ชัดเจนโดย

  • Lancer โฉมเก่าทำหน้าที่รถยนต์ B-Segment ไว้ต่อกรกับ Toyota VIOS, Honda City, Nissan March, Mazda 2, Suzuki Swift, Ford Fiesta และอื่น ๆ
  • Lancer EX ทำหน้าที่รถยนต์ C-Segment ไว้ต่อกรกับ Toyota Corolla Altis, Honda Civic, Nissan Tiida, Mazda 3, Ford Focus, Cheverolet Cruze และอื่น ๆ

แม้ในประเทศไทย มิตซูบิชิ มอเตอร์สจะนำ Lancer EX มาจำหน่ายในประเทศไทยช้ากว่าตลาดโลก เนื่องจากปัญหาทางการเงินของบริษัท แต่ก็ยังคงเป็นโฉมที่สมรรถนะเฉียบคมเหมือนโฉมก่อนๆ มีการใส่ระบบเกียร์ CVT 6 Speed พร้อมด้วย Sport Mode ในทุกรุ่นของ Lancer EX และเป็นเกียร์เดียวซึ่ง Lancer EX ของประเทศไทยมีขาย ตลาดส่งออกของแลนเซอร์ขยายวงกว้างขึ้นไปในทวีปอเมริกาเหนือ, ประเทศออสเตรเลีย, ฮ่องกง, มาเลเซีย, ชิลี และแถบทวีปยุโรป

ทางด้านของ Lancer Evolution ก็ออกรุ่น Evolution X ออกมาเพื่อเป็นรถสปอร์ตแรลลี่อีกด้วย เช่นเดียวกับโฉมต่างๆ ก่อนหน้า

ในประเทศญี่ปุ่น ใช้ชื่อรุ่นนี้ว่า มิตซูบิชิ กาแลนต์ ฟอร์ติส เนื่องจากกาแลนต์รุ่นจริงได้ยกเลิกการทำตลาดในญี่ปุ่นแล้ว กาแลนต์จึงเหลือการทำตลาดในแถบอเมริกาเหนือแทน (ในปี 2556 เลิกจำหน่ายแล้ว) ที่สำคัญคือ การใช้ชื่อแลนเซอร์ชื่อเดิมจึงไม่เหมาะกับการใช้ชื่อในการทำตลาดโฉมนี้ในญี่ปุ่นนัก เนื่องจากตลาดของแลนเซอร์โฉมนี้ในญี่ปุ่นได้อยู่กึ่งกลางระหว่างตลาด C-Segment และ D-Segment ส่วนประเทศไทยใช้ชื่อในการขายว่า Lancer EX เนื่องจากยังมีการขายรุ่นที่ 8 อยู่ เพราะต้องการแบ่งแยกตลาดให้ชัดเจน แต่รุ่นนี้ไม่ประสบความสำเร็จในทุกตลาดที่นำเข้าไปจำหน่าย เนื่องจากหน้าตาที่ดุดันมาก สมรรถนะแนว GT ไม่เอาใจสุภาพสตรีซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ C-Segment โดยเฉพาะในประเทศไทย และมีข่าวว่า Mitsubishi Lancer จะไม่มีรุ่นต่อไปที่พัฒนาโดย Mitsubishi Motors เอง เนื่องจากสถานะทางการเงินที่ในขณะนี้ต้องพึ่งพา Renault ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของฝรั่งเศส ซึ่งมีข้อตกลงว่า Renault จะต้องผลิตรถยนต์นั่ง C-Segment ให้กับ Mitsubishi Motors เพื่อส่งไปขายในตลาดโลก และผลิตรถยนต์นั่ง D-Segment ให้กับ Mitsubishi Motors ส่งไปขายในตลาดอเมริกาเหนือ แต่ต้องผลิตจากโรงงาน Renault และอาจมีความเป็นไปได้ที่ Mitsubishi Lancer ที่เปลี่ยนตราจาก C-Segment ซึ่งก็คือรุ่น Megane ของ Renault จะไม่มาทำตลาดในไทย โดยรถยนต์นั่งที่ Mitsubishi Motors จะต้องพัฒนาต่อไปแน่นอนคือ Mirage และ Attrage และอาจจะมีรถยนต์สมรรถนะสูงสืบทอดตำนานของ Lancer Evolution ออกมาอีกรุ่นหนึ่ง นอกจากนั้นไม่มีแล้ว นั่นหมายความว่า Mitsubishi Motors จะต้องเน้นตลาด Eco Car ,Crossover ,SUV และรถกระบะอย่างจริงจัง โดยต้องยอมทิ้งตลาดรถยนต์ Sedan 4 ประตูไปทั้งหมด

รุ่นย่อยทั้งหมด (เดือนมีนาคม 2553)
  • เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร FFV พร้อมรองรับเชื่อเพลิง E85
    • LANCER EX GLX
    • LANCER EX GLS
    • LANCER EX GLS Limited.
  • เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
    • LANCER EX GT


สีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 7 สี ดังนี้
  • สีบรอนซ์เงิน (Cool Silver)
  • สีบรอนซ์ทอง (Platinum Beige)
  • สีเทาดำ (Eisen Grey Mica)
  • สีดำ (Pyreness Black)
  • สีแดง (Medium Red)
  • สีขาวมุก (Warm White Pearl) *สีพิเศษ เพิ่ม 10,000 บาท สำหรับ Lancer EX และ 7,000 บาท สำหรับ Lancer โฉมเก่า
  • สีน้ำตาลทอง (Quartz Brown) (เริ่มออกวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554)


รายละเอียดทางเทคนิครุ่น 1.8 FFV (เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85)
  • กว้างxยาวxสูง - 1,760x4,570x1,490 มม.
  • วงเลี้ยวแคบสุด - 5.0 ม.
  • เครื่องยนต์ - DOHC MIVEC 16 วาล์ว 1,800 ซีซี.
  • แรงบิด - 172 N-m/4,200
  • แรงม้า - 139 Ps/6,000
  • เกียร์ - Invects-III CVT 6 Speed พร้อม Sport Mode
  • พวงมาลัย - แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วย
  • ระบบกันสะเทือน - แม็คเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง(หน้า) และอิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง(หลัง)
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ ยาง 205/60 R16
  • ได้รับรางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2010 ระดับประเทศไทย (Thailand Car of the Year 2010) ประเภทรถยนต์พลังงานทดแทนยอดเยี่ยม
รุ่น 2.0
  • กว้างxยาวxสูง - 1,760x4,570x1,490 มม.
  • วงเลี้ยวแคบสุด - 5.0 ม.
  • เครื่องยนต์ - DOHC MIVEC 16 วาล์ว 2,000 ซีซี.
  • แรงบิด - 198 N-m/4,250
  • แรงม้า - 154 Ps/6,000
  • เกียร์ - Invects-III CVT 6 Speed พร้อม Sport Mode และ Paddle Shift เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น 2.0 GT
  • พวงมาลัย - แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วย
  • ระบบกันสะเทือน - แม็คเฟอร์สัน สตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง(หน้า) และอิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง(หลัง) และ เหล็กค้ำโช้ค เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น 2.0 GT
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ ยาง 215/45 R18
  • ได้รับรางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2010 ระดับประเทศไทย (Thailand Car of the Year 2010) ประเภทรถยนต์นั่งซีดานขนาดเล็ก ขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2000 ซีซี

ใกล้เคียง